การท่องเที่ยว

Lens Category

FE 16-35mm F2.8 GM II

ชายหาดที่ปกคลุมด้วยหิมะกับแสงสุดท้ายของวัน, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 19 มม. | 120 วินาที | F14 | ISO 50 | WB 7500K

บทนำ

เลนส์ Sony FE 16-35mm F2.8 GM II (SEL1635GM2) คือเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษแบบฟูลเฟรมซึ่งเป็นเลนส์รุ่นที่สองจากตระกูล G Master เลนส์รุ่นนี้มีการพัฒนาในส่วนต่าง ๆ จนต่างจากรุ่นก่อนมาก จุดที่น่าสนใจคือการเคลือบ Nano AR รุ่นที่สอง หรือ Nano AR Coating II ซึ่งจะช่วยลดแสงแฟลร์ลง ทำให้ได้ภาพแฉกแสงอาทิตย์ที่สวยจับตา ตัวเลนส์มีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น โดยที่ความยาวลดลง 1 ซม. และน้ำหนักเบากว่าเดิม 130 กรัม เมื่อใช้งานร่วมกับกล้อง Alpha 7C II (หรือ Alpha 7C R) คุณจะได้คู่หูที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ซึ่งเหมาะมากสำหรับการเคลื่อนย้ายและการเดินทาง

ผมจะไม่พูดถึงตารางหรือตัวเลข แต่จะให้คุณดูภาพถ่ายของจริงซึ่งเผยให้เห็นคุณสมบัติต่าง ๆ ของเลนส์และผลงานศิลปะที่ถ่ายโดยใช้กล้อง Alpha 7C II และเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ภาพที่ได้มาจากทริปที่ผมเดินทางไปยังหมู่เกาะโลโฟเทนในประเทศนอร์เวย์และภูมิภาคฮอกไกโดของประเทศญี่ปุ่น สภาพแวดล้อมในการถ่ายภาพนั้นท้าทายมากทีเดียว แต่กล้องและเลนส์ก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมสุด ๆ แม้ว่าอุณหภูมิจะหนาวจัดถึง -15°C และบางเวลาก็มีลมแรงถึง 30 กม./ชม.

เลนส์มีช่วงความยาวโฟกัสหลายช่วงตั้งแต่ 16 ถึง 35 มม. ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพทิวทัศน์พร้อมฉากหน้า โดยเฉพาะทัศนียภาพของท้องทะเลและทะเลสาบ ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดรูรับแสงกว้างสุด F2.8 ของเลนส์รุ่นนี้ยังครอบคลุมถึงการถ่ายภาพในที่ร่มซึ่งมีสภาพแสงน้อยและการถ่ายภาพดาราศาสตร์ เช่น การถ่ายภาพทางช้างเผือกและเส้นแสงดาวหรือ star trails ด้วย เมื่อรวมกับคุณสมบัติทางออปติคัลที่ล้ำเลิศและดีไซน์ที่กะทัดรัด จึงทำให้เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II กลายเป็นหนึ่งในเลนส์โปรดของผมครับ

ดินแดนแห่งความสุข, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 23 มม. | 1/125 วินาที | F5.6 | ISO 800 | WB7000K

ส่วนที่ไม่มีการปรับแก้ไข

ภาพถ่ายทุกภาพในรีวิวนี้เป็นการบันทึกในรูปแบบ RAW ด้วยกล้อง Alpha 7C II และปรับแต่งโดยใช้ RAW decoding ใน Adobe Lightroom ความคมชัดเป็นการปรับตั้งตามค่ามาตรฐาน 33MP (Amount= 70, Radius= 0.8, Detail= 70, Masking= 0) จากนั้นผมแต่งภาพใน Photoshop โดยใช้ Luminosity Masks เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ภาพที่มีศิลปะ อย่างไรก็ตาม ยังมีการปรับตั้งบางอย่างที่ผมไม่ได้แตะต้องเลย ได้แก่

ความบิดเบี้ยว (Distortion)
การเพิ่มขอบมืดให้กับภาพ (Vignetting)
แสงแฟลร์ (Flare)
ความคลาดสี (Chromatic Aberration หรือ CA)

เกณฑ์ในการเลือกเลนส์

เทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวล้ำไปอย่างมากนับตั้งแต่ยุค 1990 เป็นต้นมา ทำให้เกณฑ์ในการเลือกเลนส์ขยับสูงขึ้นเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เลนส์รุ่นเรือธงจากบริษัทผู้ผลิตรายสำคัญที่ต่างลดความสีเพี้ยนลงอย่างมากและเพิ่มความคมชัดให้กับมุมของภาพ ดังนั้น เกณฑ์ที่ผมใช้ในการเลือกเลนส์สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ ณ ปัจจุบันจึงเปลี่ยนไปด้วย ต่อไปนี้คือเกณฑ์ที่ผมเรียงตามลำดับความสำคัญครับ

แฉกแสงอาทิตย์และแสงแฟลร์: แฉกแสงอาทิตย์หรือ Sunstar จะทำให้ภาพทิวทัศน์ดูพิเศษไม่เหมือนใคร เลนส์ที่สามารถสร้างแฉกแสงอาทิตย์ได้สวยอย่างไร้ที่ตินับว่าหายากมาก
ความบิดเบี้ยว: เลนส์ซูมมุมกว้างส่วนใหญ่มักทำให้ภาพเกิดความบิดเบี้ยว ยิ่งมีความบิดเบี้ยวน้อย ภาพจะยิ่งเป็นธรรมชาติมากขึ้น ถึงแม้เราจะสามารถแก้ไขความบิดเบี้ยวในขั้นตอนการตกแต่งภาพในภายหลังได้ก็จริง แต่วิธีนี้อาจส่งผลให้เกิดการขยายหรือบีบภาพ และท้ายที่สุดจะทำให้ภาพเสียความคมชัดที่มีอยู่เดิมได้
ความคมชัดที่มุมภาพ: การทำให้ภาพมีความคมชัดสม่ำเสมอตั้งแต่ตรงกลางภาพไปจนถึงมุมภาพเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
การเพิ่มขอบมืดให้กับภาพ: คือการทำให้มุมขอบทั้งสี่ด้านของภาพมืดกว่าบริเวณตรงกลางภาพ
ความคลาดสี สีเพี้ยน: หรือที่เรียกว่าขอบม่วง (Colour Fringing) ส่วนมากจะพบในภาพที่บริเวณขอบภาพมีส่วนมืดและส่วนสว่างตัดกันอย่างชัดเจน
โฟกัสอัตโนมัติ: ในการถ่ายภาพทิวทัศน์ ผมมักจะปรับโฟกัสเองและ Auto Focus (AF) บ้างเป็นบางครั้งเมื่อถ่ายภาพสัตว์ป่าในฮอกไกโด ดังนั้น AF จึงถูกจัดให้มีความสำคัญอยู่ในลำดับล่างสุด

แฉกแสงอาทิตย์สวย ๆ กับแสงแฟลร์เล็กน้อย

จากคุณสมบัติทั้งหมดของเลนส์ การทำเอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์น่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุดเพราะต้องอาศัยหลาย ๆ องค์ประกอบรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเลนส์ จำนวนม่านรูรับแสงที่ใช้ และคุณภาพของการเคลือบ Nano ซึ่งแฉกแสงอาทิตย์ที่เรียกได้ว่างดงามนั้น กลุ่มแสงทั้งหมดต้องเห็นรูปทรงอย่างชัดเจน แฉกแสงต้องยาวและกระจายออกอย่างสมดุล พร้อมด้วยปลายแหลมที่คมชัด

จำนวนแฉกแสงที่กระจายออก มักสัมพันธ์กับจำนวนม่านรูรับแสง ซึ่งถ้าจำนวนม่านรูรับแสงเป็นเลขคู่ก็จะได้แฉกแสงจำนวนเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น เลนส์ที่มีม่านรูรับแสงหกใบจะได้ภาพดาว 6 แฉก ในทางกลับกัน จำนวนม่านรูรับแสงที่เป็นเลขคี่จะให้ภาพแฉกแสงเป็นสองเท่า เช่น เมื่อใช้เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ที่มีจำนวนม่านรูรับแสง 11 ใบก็จะได้ภาพดาว 22 แฉก ผมชอบถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีเอฟเฟกต์แฉกแสงกระจายเป็น 22 แฉกมาก เมื่อแสงเจิดจ้าสดใสของดวงอาทิตย์สาดส่องผ่านภูเขาออกมาเป็นบางส่วน จะเห็นลำแสงกระจายออกเป็น 11 แฉก (ครึ่งหนึ่งของ 22) เกิดเป็นภาพที่สวยอย่างน่าทึ่ง ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณมีภาพดาวหกแฉกในสถานการณ์ที่มองเห็นแสงเพียงครึ่งหนึ่งเหมือนอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ภาพที่ได้ออกมาก็จะมีเพียงสามแฉกแสง ซึ่งอาจไม่น่าพอใจเท่าไหร่

คุณภาพของการเคลือบ Nano ช่วยขจัดแสงสะท้อนบนพื้นผิวชิ้นเลนส์ จึงช่วยลดแสงหลอกและแสงแฟลร์ของเลนส์ได้ เทคโนโลยีการเคลือบ Nano AR รุ่นที่สองของ Sony เริ่มใช้ครั้งแรกในเลนส์ FE 12-24mm F2.8 GM เมื่อปี 2020 และประสบความสำเร็จอย่างมาก เลนส์ระดับแนวหน้ารุ่นนี้ให้ภาพแฉกแสงอาทิตย์สวยและสะอาดตาที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยครับ เลนส์ FE 16-35mm GM II ตัวนี้ก็ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการเคลือบ Nano AR เดียวกันนี้เช่นกัน แม้ว่าจะในระดับที่น้อยกว่าเนื่องจากการออกแบบเลนส์เองก็ตาม แม้ว่าภาพที่ผมถ่ายจะยังคงมีแสงแฟลร์เล็กจิ๋วอยู่สองสามจุด แต่ก็ลบออกได้ง่าย ๆ ในขั้นตอนการตกแต่งภาพในภายหลัง

หมายเหตุ: เมื่อถ่ายภาพดวงอาทิตย์โดยตรง หลีกเลี่ยงการใช้ฟิลเตอร์ทุกประเภทด้วยนะครับเพื่อป้องกันแสงแฟลร์เข้าไปในเลนส์เพิ่มมากขึ้น

แฉกแสงอาทิตย์ FE 16-35mm F2.8 GM II

แฉกแสงอาทิตย์ในระยะใกล้แบบละเอียด ทั้งก่อนและหลังทำการแก้ไข

ต่อไปนี้เป็นอันดับที่ผมจัดเองสำหรับคุณภาพของภาพถ่ายแฉกแสงอาทิตย์ซึ่งผมใช้เลนส์ของ Sony ในการถ่ายครับ

FE 12-24mm F2.8 GM: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์ที่ดีที่สุดซึ่งมองไม่เห็นแสงแฟลร์เลย
FE 16-35mm F2.8 GM II (เลนส์รุ่นที่รีวิว): เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์ยอดเยี่ยมแต่มีแสงแฟลร์สองสามจุด
FE 12-24mm F4 G: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์สวยงามแต่ลำแสงที่กระจายออกมาไม่คมชัด เมื่อใช้รูรับแสงที่กว้างกว่า F11 จะทำให้ได้รูปดาวโค้งเป็นวงคล้ายพัด
FE 16-35mm F2.8 GM: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์สวยงามแต่มีแสงแฟลร์
FE 24-70mm F2.8 GM II: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์สวยงามแต่มีแสงแฟลร์เป็นบางส่วน
FE 24-70mm F2.8 GM: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์สวยงามแต่มีแสงแฟลร์
FE PZ 16-35mm F4 G: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์ที่ลำแสงเล็กบางและยาวเกินไป ทั้งยังมีแสงแฟลร์ด้วย

ผืนหญ้าสีแดง, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 20 มม. | 120 วินาที | F11 | ISO 200 | WB 4100K

ความบิดเบี้ยว

ความบิดเบี้ยวหรือ Distortion เป็นความผิดพลาดทางออปติคัล โดยเส้นตรงจะกลายเป็นเส้นโค้ง ทั้งแบบโค้งเข้าเหมือนถัง โค้งออกเหมือนหมอนปักเข็ม หรือรูปทรงเรขาคณิตเชิงซ้อนเหมือนหนวดก็เป็นได้ ลักษณะนี้จะต่างจากความบิดเบี้ยวจากระยะห่าง (Perspective Distortion) ซึ่งวัตถุที่อยู่ใกล้จะดูเหมือนอยู่ไกลออกไปและวัตถุที่อยู่ไกลจะมีขนาดเล็กลง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมองขึ้นไปที่ตึกสูง เราจะเห็นว่ายอดตึกดูเล็กกว่าฐานตึก ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากฐานตึกอยู่ใกล้กับกล้องมากกว่า เอฟเฟกต์การเอนเข้ามาบรรจบกันนี้จะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อใช้ช่วงความยาวโฟกัสที่กว้างขึ้น และไม่ใช่ความผิดพลาดของเลนส์แต่อย่างใด

เลนส์ซูมจะมีความซับซ้อนเชิงออปติคัลมากกว่าเลนส์ไพรม์ ดังนั้น การผลิตเลนส์ซูมที่มีความบิดเบี้ยวต่ำจึงท้าทายกว่า แม้ว่าทัศนียภาพของทะเลและทะเลสาบจำเป็นต้องควบคุมความบิดเบี้ยวให้ดีเพื่อรักษาเส้นระดับสายตาให้เป็นแนวตรง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ผมไม่ค่อยได้ถ่ายภาพเส้นขอบฟ้าโล่ง ๆ แบบนั้นเท่าไหร่ ภาพถ่ายของผมส่วนใหญ่จะมีวัตถุอยู่ในพื้นหลัง เช่น ทิวเขา ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับองค์ประกอบภาพ

Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 19 มม. | 120 วินาที | F14 | ISO 50 | WB 7500K

การแก้ไขความบิดเบี้ยวของ GM II สามารถทำได้ดีกว่า GM

เมื่อถ่ายภาพด้วยช่วงความยาวโฟกัสต่าง ๆ ผมสังเกตเห็นว่าการแก้ไขความบิดเบี้ยวของเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II สามารถทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย เลนส์มีความบิดเบี้ยวปานกลาง ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ชัดสุดที่ระยะ 16 มม. ช่วงความยาวโฟกัสตั้งแต่ 20 มม. ถึง 35 มม. จะพบความบิดเบี้ยวน้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเวลาถ่ายภาพในชีวิตจริง ผมจึงไม่ได้สังเกตเห็นความบิดเบี้ยวใด ๆ และไม่จำเป็นต้องแก้ไขความบิดเบี้ยวของภาพทุกภาพในรีวิวนี้ในขั้นตอนการตกแต่งภาพภายหลังด้วย

ภาพด้านล่างคือภาพพร้อมเส้นระดับสายตาที่ผมทดลองถ่าย โดยเป็นภาพก่อนและหลังทำการแก้ไขความบิดเบี้ยวใน Adobe Photoshop

ความบิดเบี้ยวจะเห็นได้ชัดสุดที่ระยะ 16 มม. ก่อนและหลังทำการแก้ไข ถ่ายด้วย FE 16-35mm F2.8 GM II

ความคมชัด

เลนส์ต้องมีความคมชัดมากพอจึงจะแสดงความละเอียดสูงสุดของกล้องในระดับล้านพิกเซล (MP) ได้ เมื่อกล้องมีความละเอียดเพิ่มขึ้น เลนส์จำเป็นต้องคมชัดขึ้นด้วยเช่นกันเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตเซ็นเซอร์กล้องระดับแนวหน้า Sony ตั้งใจจะผลิตเลนส์ที่คมชัดที่สุดซึ่งสามารถรองรับได้แม้กล้องที่มีความละเอียด 100MP หรือสูงกว่า บริษัทใช้เวลา 20 ปีในการพัฒนาชิ้นเลนส์ XA (extreme aspherical) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มความคมชัดของเลนส์ขึ้นไปอีกระดับ ดังนั้น เลนส์ GM จึงได้ถือกำเนิดขึ้น โดยเป็นการนำความคมชัดอย่างน่าทึ่งกับโบเก้ที่นุ่มละมุนมารวมไว้ด้วยกัน หลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนากลุ่มเลนส์ GM II ซึ่งมีขนาดเล็กลงและเบากว่าเดิม

เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ใช้ชิ้นเลนส์ XA สามชิ้น (เลนส์ GM รุ่นก่อนใช้สองชิ้น) ช่วยเพิ่มความคมชัดสม่ำเสมอทั้งยังรักษาดีไซน์ให้มีความกะทัดรัดยิ่งขึ้น ความคมชัดของเลนส์เป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ช่างภาพส่วนใหญ่ต่างปรารถนามากที่สุด ซึ่งเลนส์ GM II ตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในเลนส์มุมกว้างพิเศษที่คมชัดที่สุดเท่าที่มีอยู่ในขณะนี้ ทำให้ได้ภาพที่คมชัดโดดเด่นตั้งแต่กลางภาพจรดมุมภาพในแบบที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากแบรนด์อื่น

ความละเอียดในระดับสูงของ FE 16-35mm F2.8 GM II

บ้านสีแดงใน Sakrisøy, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 18 มม. | 30 วินาที | F11 | ISO 100 | WB 6600K

การเพิ่มขอบมืดให้กับภาพ

การเพิ่มขอบมืดให้กับภาพหรือ Vignetting คือการค่อย ๆ แรเงาจากรอบนอกของเลนส์เข้าไปยังตำแหน่งตรงกลางที่สว่างกว่า เอฟเฟกต์นี้จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดเมื่อใช้รูรับแสงกว้างสุด สำหรับเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ตัวนี้มีค่ารูรับแสงกว้างสุดอยู่ที่ F2.8 สำหรับการถ่ายภาพดาราศาสตร์ ควรใช้รูรับแสงกว้างสุด F2.8 เพื่อให้การตั้งค่า ISO ยังคงมีค่าต่ำ ซึ่งช่วยลดนอยส์ได้ การถ่ายภาพในกรณีดังกล่าว ท้องฟ้ากลางคืนจะมืดสนิทซึ่งทำให้ยากต่อการสังเกตการเพิ่มขอบมืด ส่วนใหญ่แล้วผมจะปรับรูรับแสงอยู่ระหว่าง F11 กับ F16 สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์กลางวันซึ่งจะมองเห็นการเพิ่มขอบมืดได้น้อยที่สุด ดังนั้น ในการใช้งานจริงแล้ว เมื่อใช้เลนส์ตัวนี้จะไม่สามารถสังเกตเห็นการเพิ่มขอบมืด เว้นแต่ว่าคุณจะถ่ายภาพที่เป็นเฟรมสีขาวเสมอกันหมด

การเพิ่มขอบมืดที่ F2.8 เมื่อเปรียบเทียบกับบริเวณตรงกลาง จะเห็นว่ามุมบนซ้ายและขวาไม่มีจุดใดที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม แสงที่เส้นระดับสายตาด้านล่างส่งผลถึงส่วนสว่างและส่วนมืดที่มุมทั้งสองของภาพมากกว่า ทำให้เอฟเฟกต์การเพิ่มขอบมืดของเลนส์เห็นได้ไม่ชัดนักแม้ว่าจะมีอยู่ก็ตาม

ในภาพด้านล่าง คุณจะเห็นได้ว่าส่วนของเมฆบริเวณด้านบนซ้ายและด้านบนขวาค่อนข้างสอดคล้องกัน เหมือนกับหิมะที่ด้านล่างซ้ายและด้านล่างขวา เมื่อเปรียบเทียบกับบริเวณตรงกลาง

พระอาทิตย์ขึ้นที่หมู่บ้าน Hamnøy, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 22 มม. | 120 วินาที | F16 | ISO 50 | WB 6150K

ความคลาดสี – CA

ความคลาดสีหรือ Chromatic aberration เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากเลนส์ เนื่องจากสีทั้งหมดไม่ถูกโฟกัสยังจุดเดียวกันอย่างแม่นยำ ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมของสีซึ่งจะสังเกตเห็นได้ชัดที่สุดบริเวณขอบตัดของภาพ FE 16-35mm F2.8 GM II ใช้การออกแบบออปติคัลขั้นสูงพร้อมด้วยชิ้นเลนส์ Super ED หนึ่งชิ้นและชิ้นเลนส์ ED สองชิ้นเพื่อลดความคลาดสี ผลที่ได้คือ คอนทราสต์และคุณภาพสีดีขึ้นอย่างมาก ทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดเนื่องจากรายละเอียดบริเวณขอบยังคงชัดเจนและสะอาดตา

มองไม่เห็นความคลาดสีหรือที่เรียกว่าขอบม่วงเลย แม้ในสภาพแสงน้อย

AF ความเร็วสูงเป็นพิเศษสำหรับอนาคต

เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ใช้มอเตอร์ XD Linear 4 ตัวสำหรับการทำงานที่แม่นยำของระบบโฟกัสอัตโนมัติ ซึ่งเร็วขึ้นเป็นสองเท่าจากรุ่นก่อน ในกรณีของกล้องสมรรถนะสูงอย่าง Alpha 9 III จะสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงถึง 120 fps ได้เลย ความสามารถของระบบออโต้โฟกัสใหม่นี้เป็นประโยชน์อย่างมากกับการถ่ายวิดีโอหรือการถ่ายภาพกีฬาต่าง ๆ ในระยะใกล้

มอเตอร์ XD Linear 4 ตัวในเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II นี้จะช่วยให้โฟกัสอัตโนมัติ (AF) ทำงานด้วยความรวดเร็วเป็นพิเศษ นั่นคือสามารถเร็วได้ถึง 120 fps เมื่อใช้งานร่วมกับกล้องที่มีความเร็วสูง

บ้านสีแดงริมทะเลสาบสีฟ้า, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 35 มม. | 120 วินาที | F11 | ISO 50 | WB 7500K

บทสรุป

การเลือกเลนส์ให้เหมาะกับการเดินทางครั้งสำคัญเป็นเรื่องที่ช่างภาพส่วนใหญ่ต้องพิจารณาไตร่ตรองอย่างจริงจัง การใช้เลนส์ที่มีคุณภาพด้อยอาจทำให้ต้องเศร้าใจไปอีกนาน ผมเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นผมคิดว่าตัวเองได้ถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมเอาไว้แล้วเพื่อที่จะได้มาเจอในภายหลังว่าภาพเหล่านั้นไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ ในทางเทคนิค ภาพถ่ายบางภาพมีแสงที่ดีมากแต่กลับมีความคมชัดน้อยเกินไป ในขณะที่บางภาพมีเอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์แต่ก็โดนทำลายด้วยแสงแฟลร์ เรื่องแบบนี้คือฝันร้ายของช่างภาพที่ลงทุนจ่ายเงินไปจำนวนมากเพื่อทริปของตน

หลังจากใช้เวลาสองเดือนไปกับเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ผมถ่ายภาพไปแล้วกว่า 800 ภาพ ทั้งภาพที่ถ่ายจากหมู่เกาะโลโฟเทนในประเทศนอร์เวย์และภูมิภาคฮอกไกโดของประเทศญี่ปุ่น ผมก็เริ่มชอบเลนส์ตัวนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งได้มาจับคู่กับกล้อง Alpha 7C II คู่หูคู่นี้เคยรังสรรค์ภาพถ่ายที่คมชัดและมีชีวิตชีวาได้อย่างน่าเชื่อถือท่ามกลางสภาพอากาศที่โหดร้ายที่สุดมาแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเลนส์ตัวนี้คือหนึ่งในเลนส์มุมกว้างพิเศษที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังใช้ร่วมกับชุดฟิลเตอร์สี่เหลี่ยมขนาด 100 มม. ได้ด้วย เลนส์รุ่นนี้จึงเป็นเลนส์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์โดยแท้ สำหรับข้อดีและข้อเสียของ FE 16-35mm F2.8 GM II มีดังนี้:

ข้อดี

เล็กและเบากว่า FE 16-35mm F2.8 GM อย่างเห็นได้ชัด
การควบคุมแสงแฟลร์ทำได้ดีเยี่ยม เป็นรองเพียง FE 12-24mm F2.8 GM เท่านั้น
ภาพแฉกแสงอาทิตย์ 22 แฉกที่สวยสุด ๆ มีแสงแฟลร์เพียงไม่กี่จุด ซึ่งสามารถลบออกได้ง่าย ๆ เมื่อทำการตกแต่งภาพในภายหลัง
ความบิดเบี้ยวน้อยกว่าเลนส์รุ่นก่อนหน้า ซึ่งการไม่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลังยังคงเป็นคุณสมบัติที่พึงมีเสมอ

ไม่พบความคลาดสีหรือขอบม่วง
ความคมชัดเป็นเลิศตั้งแต่ตรงกลางภาพจนถึงมุมภาพ แม้ว่ามุมภาพจะไม่ได้คมชัดยอดเยี่ยมในระดับเดียวกับตรงกลางภาพก็ตามที
รูรับแสงขนาดใหญ่ F2.8 ทำให้ถ่ายภาพเส้นแสงดาวได้อย่างสะดวกสบาย ในขณะที่มุมกว้าง 16 มม. จะมีประโยชน์มากเมื่อทางช้างเผือกอยู่ในแนวตั้ง
คุณสามารถใช้ชุดฟิลเตอร์สี่เหลี่ยมขนาด 100 มม. แบบมาตรฐานได้
โฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูงเป็นพิเศษซึ่งรองรับได้ถึง 120 fps (สำหรับกล้องอย่างเช่น Alpha 9 III)

ข้อเสีย

เมื่อถ่ายภาพดวงอาทิตย์ยังคงมีจุดแสงแฟลร์แต่ก็ไม่กี่จุด ถ้าสามารถแก้ปัญหานี้ให้หมดไปได้อย่างสิ้นเชิงเหมือนอย่าง FE 12-24mm F2.8 GM ก็คงจะดีมาก อย่างไรก็ตาม จุดแสงแฟลร์ไม่กี่จุดเหล่านี้สามารถลบออกได้ง่าย ๆ ในขั้นตอนการตกแต่งภาพในภายหลัง

หมู่บ้าน Reine ที่สวยงามและมีมนต์ขลัง, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 17 มม. | 120 วินาที | F16 | ISO 50 | WB 6700K

ชายหาดท่ามกลางลมแรง, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 19 มม. | 120 วินาที | F11 | ISO 100 | WB 7500K

ชายหาด Skagsanden ที่อาบไปด้วยแสงสีเขียว, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 26 มม. | 120 วินาที | F14 | ISO 50 | WB 6500K

ชายหาดสีขาวกับท้องฟ้าสีเขียว, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 21 มม. | 120 วินาที | F16 | ISO 50 | WB 7500K

การมาบรรจบกัน, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 35 มม. | 1/80 วินาที | F7 | ISO 800 | WB 5500K

ลวดลายบนหิมะ, ฮอกไกโด ญี่ปุ่น, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 35 มม. | 1/4 วินาที | F16 | ISO 50 | WB 5950K

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7C II

Máy ảnh full-frame nhỏ gọn

FE 16-35mm F2.8 GM II

Ống kính thu phóng rộng G Master để chụp toàn khung hình

Article Theme

FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

Enchanting Vietnam through the lens of @spookylens | Featuring FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

Calvin — Mon, 25 Mar 2024 08:45:50 +0000

มนต์เสน่ห์เวียดนามผ่านเลนส์ของ @spookylens | ด้วย FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

Calvin Mon, 03/25/2024 - 14:15

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7R V

Lens Category

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

เหตุผลที่ทำให้ Woo-guen เลือก FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Woo-guen

Choi Woo-geun เจ้าของบัญชี @spookylens ใน Instagram คือช่างภาพแบรนด์สินค้าชาวเกาหลีใต้ เมื่อว่างจากงาน เขาจะถ่ายทอดการใช้ชีวิตกลางแจ้งซึ่งเป็นสิ่งที่เขารักออกมาในรูปของภาพถ่ายทิวทัศน์ธรรมชาติและภาพแนวสตรีทที่มีชีวิตชีวา ด้วยความชอบผจญภัยนี้เองที่ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางไปเวียดนาม และได้พบกับการมีอยู่ของธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์และชีวิตเมืองที่อึกทึกวุ่นวาย

เราได้นั่งคุยกับ Woo-geun ถึงเรื่องน่าตื่นเต้นล่าสุดของเขากับทริปเวียดนาม และทิวทัศน์อันน่าทึ่งที่ถูกถ่ายไว้ด้วยกล้อง Alpha 7R V และเลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II ของเขา

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 86 mm | 1/320 sec | F4 | ISO 100

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

FE 70-200mm F4 Macro G OSS II คือเลนส์ซูมเทเลโฟโต้รุ่นใหม่ที่มาพร้อมความคมชัดในรายละเอียดและคุณสมบัติกึ่งมาโคร (half-macro) ตลอดทุกช่วงการซูม ไม่ว่าจะถ่ายระยะใกล้หรือจากที่ไกล ๆ เลนส์มากประโยชน์ตัวนี้ช่วยคุณได้เสมอ นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบามาก จึงเหมาะที่จะให้ช่างภาพสายท่องเที่ยวพกพามันไปด้วยได้อย่างสะดวกสบาย

ความยาวโฟกัส: 70-200 มม.
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.26-0.42 ม.
อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุด (X): 0.5
น้ำหนัก: 794 กรัม

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 140 mm | 1/800 sec | F5.6 | ISO 400

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 200 mm | 1/400 sec | F4 | ISO 400

ผมอยากถ่ายทอดความสวยงามของทั้งตัวเมืองและชีวิตกลางแจ้งที่น่าทึ่ง รวมทั้งช่วงเวลาต่าง ๆ ของคนท้องถิ่นและภูมิทัศน์ที่พวกเขาอาศัยอยู่ผ่านภาพถ่ายของผม”

เหตุผลที่ทำให้ Woo-guen เลือก FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

ตามที่ Woo-guen กล่าว เมื่อถ่ายภาพแนวสตรีท ช่วงเวลาที่ตรึงใจช่างภาพได้นั้นมักเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้น ความสามารถในการรับรู้ตัวแบบที่รวดเร็วและระบบติดตาม AF ของเลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II เมื่อใช้คู่กับกล้อง Alpha 7R V จึงช่วยให้เขาเก็บภาพช่วงเวลาที่ตรงใจได้อย่างน่าทึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ในการถ่ายภาพนอกสถานที่ตลอดทั้งวัน น้ำหนักของอุปกรณ์ยังอาจสร้างภาระให้กับช่างภาพได้เช่นกัน Woo-guen ชอบความกะทัดรัดของ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II ที่ทำให้เขาถ่ายภาพได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกหนักเหมือนอย่างเลนส์เทเลโฟโต้ทั่วไป

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 126 mm | 1/500 sec | F4 | ISO 400

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 200 mm | 1/500 sec | F4 | ISO 400

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Woo-guen

ช่วยเล่าถึงตัวเลือกอุปกรณ์ของคุณให้เราฟังหน่อย

สำหรับทริปนี้ผมใช้กล้อง Alpha 7R V คู่กับเลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II ครับ Alpha 7R V เป็นกล้องความละเอียดสูงที่มีจุดเด่นด้านการเก็บรายละเอียดในการถ่ายภาพท่องเที่ยวและทิวทัศน์ กล้องตัวนี้จึงมักเป็นตัวเลือกแรกสำหรับโปรเจกต์ส่วนตัวของผมเกือบทุกโปรเจกต์เลยครับ แม้ว่าจะมีขนาดกะทัดรัด แต่เลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS ก็มีความยาวโฟกัสน่าทึ่งถึง 70-200 มม. และให้ภาพที่ยอดเยี่ยมเสมอ

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 86 mm | 1/320 sec | F4 | ISO 100

อะไรที่ทำให้คุณไปเยือนเวียดนามเพื่อถ่ายภาพสุดแหวกแนวชุดนี้

ผมอยากเดินทางไปยังที่ที่ทำให้ผมถ่ายได้ทั้งภาพเมืองและทิวทัศน์ตามธรรมชาติได้ในหนึ่งทริป เท่าที่เดินทางมาหลาย ๆ ที่ ผมยกให้ฮานอยเป็นที่หนึ่งในลิสต์ของผมครับ เพราะที่นี่มีทั้งภูมิทัศน์เมืองที่อึกทึกวุ่นวายและทิวทัศน์ธรรมชาติแถบชานเมืองที่สวยชวนตะลึง

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 96 mm | 1/320 sec | F5.6 | ISO 200

แม้ในตัวเมืองที่อึกทึกวุ่นวายอย่างฮานอย คุณก็สามารถมองเห็นถึงร่องรอยของอดีตที่แฝงอยู่ในอาหาร สถาปัตยกรรม และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจซึ่งคุณจะได้พบเจอกับความสับสนอลหม่านของรถยนต์ที่เคลื่อนตัวปะปนไปกับรถจักรยานยนต์มากมายนับไม่ถ้วน การเดินเที่ยวในเมืองที่มีทั้งอดีตและปัจจุบันอยู่ร่วมกันนี้จะทำให้คุณได้ภาพถ่ายแนวสตรีทที่น่าทึ่งอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น เพียงออกไปนอกตัวเมืองฮานอยยังมีสถานที่อันน่าอัศจรรย์ด้วยภูมิทัศน์เป็นภูเขาหินปูนที่ถูกน้ำกัดกร่อนจนมีลักษณะสวยงาม แปลกตา สถานที่เหล่านี้ล้วนมีทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างน่าทึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 95 mm | 1/80 sec | F4 | ISO 1600

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 70 mm | 1/400 sec | F4 | ISO 100

มีข้อควรระวังอะไรบ้างกับการถ่ายภาพในเวียดนาม

ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปถ่ายรูปในสถานที่ใดก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่สุดคือแสงครับ ทุกครั้งที่ถ่ายภาพ สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ถึงทิศทาง ประเภท และปริมาณแสง ผมแนะนำว่าควรจำลองและทำความเข้าใจกับสถานการณ์การถ่ายภาพ รวมทั้งแสงที่สามารถใช้ได้ก่อนที่คุณจะเริ่มกดชัตเตอร์ ก่อนจะตัดสินใจออกทริป คุณยังอาจตรวจสอบสภาพอากาศและแผนที่จากอินเทอร์เน็ตได้เช่นกันเพื่อจะได้พร้อมรับมือกับการถ่ายภาพในสภาพต่าง ๆ

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 70 mm | 1/160 sec | F4 | ISO 200

การท่องเที่ยวนำมาซึ่งความสนุกสนานเสมอ แต่การถ่ายภาพคือความท้าทายที่น่าตื่นเต้น”

ที่มาของแรงบันดาลใจ

หากการผจญภัยของ Woo-guen ทำให้คุณอยากวางแผนพาตัวเองไปเวียดนามดูบ้างเช่นกัน Woo-geun แนะนำให้คุณไปเยือนเมืองชนบทที่มีฝนพรำอย่างนิญบิ่ญ ซึ่งอยู่ห่างจากฮานอยประมาณ 3 ชั่วโมงโดยการขับรถ โดยรวมแล้ว Woo-guen แนะนำให้ช่างภาพสายท่องเที่ยวใช้เลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II “คู่หูที่สมบูรณ์แบบของการเดินทางที่มีการถ่ายภาพกลางแจ้งเป็นเวลานาน ทั้งยังช่วยรักษาคุณภาพของภาพได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดทุกช่วงการซูม”

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7R V

Full Frame High Resolution Camera with AI processing

FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

Ống kính zoom tele dòng G dành cho máy ảnh Full frame

Article Theme

VLOG

Glorious Germany through the lens of @withkhyun | Featuring FE 16-35mm F2.8 GM II

Calvin — Mon, 25 Mar 2024 03:01:23 +0000

อร่ามเรืองเมืองเยอรมนีผ่านเลนส์ของ @withkhyun | ด้วย FE 16-35mm F2.8 GM II

Calvin Mon, 03/25/2024 - 08:31

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 16-35mm F2.8 GM II

Lens Category

FE 16-35mm F2.8 GM

เหตุผลที่ทำให้ Seok-Hyun เลือก FE 16-35mm F2.8 GM II

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Seok-Hyun

Park Seok-Hyun นักสร้างวิดีโอชาวเกาหลีใต้ เจ้าของบัญชี @withkhyun อันโด่งดังใน Instagram ได้รับการยกย่องจากผลงานการถ่ายวิดีโอกลางแจ้งและการท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์แบบภาพยนตร์ ในการเดินทางครั้งล่าสุดของเขา Seok-Hyun รวบรวมภาพถนนและสถาปัตยกรรมที่มีเสน่ห์ของเยอรมนีเอาไว้อย่างมีศิลปะ สมคุณค่าความเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของประเทศนี้

พบกับแนวทางสุดสร้างสรรค์ของ Seok-Hyun เพราะเขาจะมาให้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่เขาใช้เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II อันทรงพลังเพื่อนำเสนอทิวทัศน์ต่าง ๆ ของเยอรมนีที่ทั้งหลากหลายและสวยงามราวกับภาพวาด

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 16-35mm F2.8 GM II

เก็บทุกช่วงเวลาด้วยเลนส์อเนกประสงค์ FE 16-35mm F2.8 GM II เลนส์ซูมมุมกว้างที่มีรูรับแสงกว้างสุด F2.8 ช่วยให้ช่างภาพเก็บภาพที่น่าประทับใจเอาไว้ได้แม้สภาพแสงจะไม่เป็นใจ คุณสมบัตินี้ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกที่ไว้ใจได้สำหรับการถ่ายภาพยามค่ำคืน การตั้งค่าเพื่อถ่ายภาพภายในอาคาร หรือในสถานการณ์ที่คุณต้องการรักษาคุณภาพของภาพแม้แสงน้อย

ความยาวโฟกัส: 16 มม. - 35 มม.
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.22 (W,T) ม. / 0.73 (W,T) ฟุต
อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุด (x): 0.32
น้ำหนัก: 547 กรัม

Alpha 7CR | FE 16-35mm F2.8 GM II | 18 mm | 1/30 sec | F2.8 | ISO 500

แม้จะมีน้ำหนักเบา แต่เลนส์ก็ยังคงให้ภาพที่ละเอียดคมชัดและน่าพึงพอใจเสมอ”

เหตุผลที่ทำให้ Seok-Hyun เลือก FE 16-35mm F2.8 GM II

Seok-Hyun เชื่อว่าเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II คือตัวเลือกที่ลงตัวที่สุดแล้วสำหรับการถ่ายภาพในทุกช่วงเวลา ทริปเยอรมนีช่วยยืนยันว่าความเชื่อของเขานั้นถูกต้อง ดังจะเห็นได้จากผลงานภาพถ่ายแสงสีสว่างไสวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่เขารวบรวมมานำเสนอได้อย่างสวยงาม แม้ว่าเลนส์จะถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาแต่ก็ให้ความละเอียดคมชัดสม่ำเสมอ ภาพถ่ายที่ได้จึงสร้างความพึงพอใจให้แก่เขาอย่างมาก แม้จะถ่ายในสภาพแสงน้อยก็ตาม

Alpha 7CR | FE 16-35mm F2.8 GM II | 35 mm | 1/50 sec | F2.8 | ISO 320

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Seok-Hyun

อุปกรณ์ที่คุณพกไปในทริปนี้มีอะไรบ้าง

สำหรับการถ่ายภาพในเยอรมนีครั้งนี้ ผมเลือกใช้กล้อง Sony Alpha 7CR คู่กับเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II โดยพิจารณาจากระยะทางที่ผมต้องเดินทางและความจำเป็นที่จะต้องใช้กล้องความละเอียดสูง ซึ่งสำคัญมากต่อการพิมพ์และการจัดแสดงผลงานในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังเลือกอุปกรณ์ตัวนี้เพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งต้องการภาพที่มีคุณภาพสูงเป็นพิเศษ ต้องขอบคุณกล้องและเลนส์คู่นี้ที่มีน้ำหนักเบาทั้งยังมีประสิทธิภาพด้านออปติคัลเป็นเลิศ ทำให้ผมถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมออกมาได้สำเร็จ

Alpha 7CR | FE 16-35mm F2.8 GM II | 35 mm | 1/50 sec | F2.8 | ISO 320

Alpha 7CR | FE 16-35mm F2.8 GM II | 35 mm | 6 sec | F2.8 | ISO 64

มีข้อควรระวังอะไรบ้างกับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย

หลีกเลี่ยงการตั้งค่า ISO สูงในสถานการณ์ที่มีแสงสีแดงอยู่มากจะเป็นการดีที่สุด สิ่งสำคัญคือทำให้ภาพยังคงดูสะอาดตาเข้าไว้ เพื่อให้แต่ละส่วนของภาพสามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมแนะนำให้ลดความเร็วชัตเตอร์ลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยให้จับภาพที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ การตั้งค่า ISO ไว้ที่ 400 หรือต่ำกว่านั้นเหมาะสมดีแล้ว และสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/5 วินาทีได้โดยที่ไม่ทำให้ภาพเบลอ ซึ่งก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยีออปติคัลที่คอยช่วยในส่วนนี้

อย่างไรก็ตาม หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การปรับสมดุลแสงสีขาว (WB) ให้แม่นยำจำเป็นมากนะครับ แทนที่จะหวังพึ่งการตั้งค่าอัตโนมัติ คุณควรปรับช่วงแสงสีแดงแบบละเอียดโดยใช้ฟิลเตอร์อุณหภูมิสี

Alpha 7CR | FE 16-35mm F2.8 GM II | 33 mm | 1/80 sec | F2.8 | ISO 2500

สถานที่ใดที่ฝากความประทับใจให้คุณมากที่สุดแบบไม่รู้ลืม

บรรยากาศช่วงสิ้นปีอย่างพวกงานเทศกาลครับ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม มันคือช่วงเวลาในการเตรียมต้อนรับปีใหม่ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริงหลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งปี ผมอยากเก็บความรู้สึกโดยรวมไว้ในภาพถ่ายของผมมากกว่าที่จะเจาะจงสถานที่ใดที่หนึ่งเป็นพิเศษครับ ซึ่งภาพที่ได้ออกมาก็สวยอย่างที่คิดไว้ ผมพอใจมากกับภาพที่ได้จากการถ่ายโดยใช้กล้อง Alpha 7CR ร่วมกับเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II และผมจะตั้งใจทำงานให้มากขึ้นเพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบครับ ในบรรดาภาพเหล่านั้น ผมจำได้ดีถึงความงามยามบ่ายของตลาดคริสต์มาสในเมืองเดรสเดิน ที่เต็มไปด้วยแสงสีสว่างไสว

Alpha 7CR | FE 16-35mm F2.8 GM II | 33 mm | 1/80 sec | F2.8 | ISO 2500

Alpha 7CR | FE 16-35mm F2.8 GM II | 34 mm | 1/400 sec | F2.8 | ISO 2500

ผมรักการถ่ายภาพช่วงเวลาพิเศษที่ผู้คนทั่วโลกล้วนได้สัมผัส”

ที่มาของแรงบันดาลใจ

เมื่อถามถึงแผนการในอนาคต Seok-Hyun วาดหวังว่าจะผลิตผลงานภาพถ่ายที่สามารถสื่อสารกับสาธารณชนได้โดยตรง เป้าหมายของเขาคือ “เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับสาธารณชนผ่านการถ่ายภาพในฤดูกาลต่าง ๆ” เหมือนอย่างความสำเร็จที่ได้รับจากช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7CR

Máy ảnh full-frame nhỏ gọn 61 MP

Article Theme

Dazzling Taiwan through the lens of @siniple | Featuring FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

Calvin — Fri, 22 Mar 2024 08:41:14 +0000

อัศจรรย์ไต้หวันผ่านเลนส์ของ @siniple | ด้วย FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

Calvin Fri, 03/22/2024 - 14:11

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7R V

Lens Category

FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

เหตุผลที่ทำให้ Siniple เลือก FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Siniple

เมื่อว่างเว้นจากการถ่ายภาพให้กับแบรนด์ต่าง ๆ Siniple ช่างภาพหนุ่มจากเกาหลีใต้จะออกท่องเที่ยวและเก็บช่วงเวลาอันน่าประทับใจไว้ในภาพถ่ายและวิดีโอ นอกจากนี้เขายังมีโปรเจกต์สำหรับหน่วยงานการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งตอบโจทย์ความรักในการเดินทางของเขาได้เป็นอย่างดี ในการเดินทางครั้งล่าสุดของเขาสู่ไต้หวัน ดินแดนที่ผสมผสานความเก่าและความทันสมัยเอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวที่สุด

เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ Siniple ถึงทริปท่องเที่ยวของเขาแบบสั้น ๆ รวมถึงบทบาทของกล้อง Alpha 7R V กับเลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II ในการเดินทางครั้งนี้

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 70 mm | 3.2 sec | F11 | ISO 100

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

ด้วยน้ำหนักเพียง 794 กรัม เลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II คือเลนส์ซูมเทเลโฟโต้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษที่มาพร้อมคุณสมบัติกึ่งมาโคร (half-macro) ตลอดทุกช่วงการซูม ด้วยน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อน ช่วยให้ช่างภาพสายท่องเที่ยวสามารถพกพา FE 70-200mm F4 Macro G OSS และถ่ายภาพแบบ handheld ได้สะดวกยิ่งขึ้น

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 | 172 mm | 1/250 sec | F10 | ISO 400

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 70 mm | 1/50 sec | F4 | ISO 2500

น้ำหนักที่เบาและดีไซน์กะทัดรัดของเลนส์ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการถ่ายภาพที่น่าประทับใจ สภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายทำให้ผมมีสมาธิกับการถ่ายภาพ”

เหตุผลที่ทำให้ Siniple เลือก FE 70-200mm F4 Macro G OSS II

เพราะเป็นช่างภาพที่ต้องเดินทางตลอด Siniple จึงชื่นชอบในความเบาของเลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II ที่ไม่ทำให้ข้อมือของเขาปวดหลังจากที่ถ่ายภาพมาตลอดทั้งวัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเลนส์ตัวนี้เหมาะมากสำหรับช่างภาพที่ถ่ายภาพแบบ handheld เป็นเวลานาน เมื่อไม่ต้องแบกรับน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น Siniple ก็สามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาและมีสมาธิในการจัดเฟรมภาพถ่ายของเขาอย่างเต็มที่

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Siniple

ช่วยเล่าถึงตัวเลือกอุปกรณ์ของคุณให้เราฟังหน่อย

ถ้าเป็นการถ่ายภาพแบบสตรีทและภาพทิวทัศน์ ผมจะใช้กล้อง Alpha 7R V คู่กับเลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II เพราะมีโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและระบบป้องกันภาพสั่นไหวครับ ส่วนการถ่ายภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ปกติจะมืดอยู่แล้ว ก็ทำให้ผมจำเป็นต้องใช้แสงน้อยนิดที่มีให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ดีที่ผมสามารถถือกล้องถ่ายภาพแบบ handheld ด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าถึง 3-4 วินาที ได้อย่างมั่นคง ทำให้ผมสามารถถ่ายภาพที่ตั้งค่า ISO ต่ำได้ เลนส์ FE 70-200mm F4 Macro G OSS II ช่วยให้ภาพถ่ายมีคุณภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ น้ำหนักที่เบาและดีไซน์ที่กะทัดรัดของมันก็ช่วยให้ผมถ่ายภาพเป็นเวลานานได้สบายขึ้นมากอย่างที่คาดไว้จริง ๆ

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 172 mm | 1/250 sec | F4 | ISO 800

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 184 mm | 1/125 sec | F4 | ISO 2000

อะไรที่ทำให้คุณไปเยือนไต้หวันเพื่อถ่ายภาพสุดแหวกแนวชุดนี้

ไต้หวันอาจเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยโอกาสในการถ่ายภาพอย่างเหลือล้น การเดินทางออกจากเมืองไปยังภูมิทัศน์ธรรมชาติก็ง่ายมาก และยังแวดล้อมไปด้วยอิทธิพลแบบจีนและญี่ปุ่น คุณจะพบเห็นวัดน้อยใหญ่ตั้งเรียงรายอยู่ทั่วเมือง ชวนให้นึกถึงหมู่บ้านจีนโบราณที่เรียบง่ายและมีเสน่ห์แบบชนบท อย่างไรก็ดี ตอนที่ผมลองเข้าไปตามตรอกซอกซอย ผมกลับรู้สึกราวกับว่าได้เข้าไปในเมืองอันเงียบสงบและมีเสน่ห์แบบญี่ปุ่น

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 | 70 mm | 1/250 sec | F6.3 | ISO 100

ทางเดินเท้าในเมืองกลมกลืนกับลักษณะเฉพาะทางธรรมชาติและวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดีจนทำให้ผมตกหลุมรักมันทันทีเลยครับ ผมพยายามถ่ายทอดเสน่ห์ที่แท้จริงของไต้หวันเอาไว้ในภาพถ่ายและวิดีโอให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

มีข้อควรระวังอะไรบ้างกับการถ่ายภาพในไต้หวัน

โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบถ่ายภาพช่วงเวลาที่เป็นธรรมชาติอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการลังเล ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วินาทีหรือชั่วครู่ชั่วคราว สิ่งสำคัญคือต้องพร้อมอยู่เสมอ ด้วยความที่ผมมักใช้โหมดมาโครเป็นส่วนใหญ่ การตั้งค่าที่เหมาะสมอย่างรวดเร็วจึงเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ผมมักปรับการตั้งค่าให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานที่และเวลาด้วยครับ

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 | 77 mm | 1/400 sec | F8 | ISO 100

ผมอยากแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับคนอื่นผ่านภาพถ่ายการเดินทางและประสบการณ์ที่ผมได้รับ”

ที่มาของแรงบันดาลใจ

ด้วยใจรักในการผจญภัย Siniple มีแผนที่จะออกเดินทางท่องโลกให้มากขึ้นและจัดทำคอลเล็กชันภาพถ่ายการเดินทางเพื่อแบ่งปันความสนุกสนานจากการเดินทางสู่ผู้ชมในวงกว้าง FE 70-200mm F4 Macro G OSS II มีบทบาทสำคัญยิ่งในความสำเร็จของเขา และเขาเองก็กำลังเฝ้ารอที่จะได้ออกค้นหาจุดหมายใหม่ ๆ ไปพร้อมกับเลนส์เทเลโฟโต้ที่ใช้งานแสนสะดวกตัวนี้ “เป็นอย่างที่คิดไว้เลยครับ การไปเยือนไต้หวันพร้อมด้วยเลนส์ที่เบาแต่ทรงพลังนับเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ”

Alpha 7R V | FE 70-200mm F4 Macro G OSS II | 70 mm | 1/200 sec | F4 | ISO 400

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7R V

Full Frame High Resolution Camera with AI processing

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Ống kính Zoom Telephoto G Master dành cho máy ảnh Full frame

Article Theme

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 20-70mm F4 G

VLOG

Scenic South Korea through the lens of @bombyul | Featuring FE 20-70mm F4 G

Calvin — Fri, 22 Mar 2024 07:52:48 +0000

ทิวทัศน์อันงดงามในเกาหลีใต้ผ่านเลนส์ของ @bombyul | ด้วย FE 20-70mm F4 G

Calvin Fri, 03/22/2024 - 13:22

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7C II

Lens Category

FE 20-70mm F4 G

เหตุผลที่ทำให้ Bombyul เลือก FE 20-70mm F4 G

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Bombyul

ช่างภาพสายท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ผู้หมั่นเก็บภาพความประทับใจจากการเดินทางมานำเสนอผ่านหน้า Instagram ของเธอเองที่ชื่อ @bombyul อยู่เสมอ เธอจะพาเราไปชมทิวทัศน์สวย ๆ ของเมืองชอนจูในเกาหลีใต้ โดยใช้กล้อง Alpha 7C II และเลนส์ FE 20-70mm F4 G ในการเก็บภาพความงดงามครั้งนี้

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 20-70mm F4 G

ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา พร้อม AF ที่รวดเร็ว ทำให้ FE 20-70mm F4 G สร้างมาตรฐานการซูมใหม่ด้วยช่วงความยาวโฟกัสที่กว้างยิ่งขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในเลนส์ตัวเลือกสำหรับครีเอเตอร์ผู้เก่งกาจรอบด้านและต้องเดินทางอยู่เสมอ

ความยาวโฟกัส: 20-70 มม.
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.30 ม. (W), 0.25 ม. (T)
อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุด (X): 0.39
น้ำหนัก: 488 กรัม

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 52 mm | 1/80 sec | F4 | ISO 320

ความสะดวกในการพกพาสำคัญกับฉันมากค่ะ เพราะพื้นที่ในชอนจูส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินหรือไม่ก็ใช้ขนส่งสาธารณะ”

เหตุผลที่ทำให้ Bombyul เลือก FE 20-70mm F4 G

Bombyul ต้องการเลนส์ที่ทั้งใช้งานได้หลากหลายและพกพาสะดวก เพราะเธอมักท่องเที่ยวโดยอาศัยการเดินเป็นส่วนใหญ่ เลนส์ FE 20-70mm F4 G จึงเหมาะกับเธอที่สุด “เลนส์ตัวนี้ไม่เพียงแค่เบา แต่ยังรับประกันว่าจะให้ภาพสวยเสมอด้วยค่ะ”

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 70 mm | 1/500 sec | F4.5 | ISO 100

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Bombyul

ช่วยพูดถึงการใช้อุปกรณ์ของคุณในการถ่ายภาพการเดินทางให้เราฟังหน่อย

กล้อง Alpha 7C II นั้นใช้ง่ายและเหมาะที่จะใช้ถ่ายภาพแบบ handheld ร่วมกับเลนส์น้ำหนักเบาอย่าง FE 20-70mm F4 G เมื่อใช้งานคู่กันทำให้ได้ภาพที่เสถียรมาก บวกกับเลนส์ที่มีมุมกว้างขึ้นทำให้ฉันมีทางเลือกมากขึ้นและถ่ายภาพทิวทัศน์ได้หลากหลายมากขึ้นค่ะ

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 70 mm | 1/1000 sec | F4.5 | ISO 100

คุณมีคำแนะนำอะไรอยากฝากถึงเพื่อนช่างภาพสายท่องเที่ยวไหม

วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ได้ภาพถ่ายท่องเที่ยวสวย ๆ คือถ่ายให้มากเข้าไว้ การถ่ายภาพเกรดเอให้ได้สักภาพนั้นสำคัญก็จริงอยู่ แต่คุณก็ควรลองถ่ายภาพช่วงเวลาต่าง ๆ ให้มากขึ้นด้วย คุณอาจได้ภาพเกรดเอจากสถานที่ที่ไม่คาดคิดก็ได้นะคะ

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 20 mm | 1/320 sec | F6.3 | ISO 100

ช่วงเวลาใดที่สร้างความประทับใจให้กับคุณมากที่สุด

สถานที่ที่น่าจดจำคือ สวนด็อกจินในชอนจูค่ะ ที่นั่นมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ และเงียบสงบเยอะมาก เราสามารถถ่ายภาพห้องสมุดที่อยู่กลางทะเลสาบได้จากหลายมุม ตัวห้องสมุดยอนฮวาจองเองก็น่าประทับใจเช่นกันกับภาพหน้าต่างฮานคที่มีแสงแดดอุ่น ๆ ส่องผ่านและชั้นวางหนังสือที่ตั้งเรียงราย

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 45 mm | 1/125 sec | F4 | ISO 100

ที่มาของแรงบันดาลใจ

หากคุณไปเกาหลีใต้อย่าลืมแวะไปเยือนชอนจู เมื่อยืนอยู่บนเนินเขาโอมกแดแล้วมองลงไปยังชอนจูซึ่งยังคงรักษาบรรยากาศเก่าแก่เอาไว้ได้เป็นอย่างดี จะทำให้เราย้อนระลึกถึงภาพของเมืองนี้ในอดีต หากคุณชื่นชอบในบรรยากาศที่เงียบสงบ คุณจะตกหลุมรักเมืองนี้แน่ ๆ

ของเก่ากับความงดงามที่ถูกบ่มเพาะผ่านกาลเวลา”

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 70 mm | 1/320 sec | F4 | ISO 100

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7C II

Máy ảnh full-frame nhỏ gọn

FE 20-70mm F4 G

Ống kính Zoom tiêu chuẩn dòng G dành cho máy ảnh Full frame

Article Theme

การถ่ายภาพสตรีท

Braving the rugged wilderness of the Catlins Coast with Stefan Haworth | Capture like an Alpha Traveller

Calvin — Tue, 27 Feb 2024 08:39:59 +0000

ผจญภัยในธรรมชาติสุดสมบุกสมบันของชายฝั่งแคทลินส์กับ Stefan Haworth | บันทึกภาพตามรอย Alpha Traveller

Calvin Tue, 02/27/2024 - 14:09

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Lens Category

FE 24-70mm F2.8 GM II

อุปกรณ์ในกระเป๋า

จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดและไฮไลต์สำคัญ

สภาพภูมิอากาศและสภาวะการถ่ายภาพ

ก้าวสู่การผจญภัยตามรอย Alpha Traveller

Stefan Haworth เป็น Digital Imaging Ambassador ของ Sony ซึ่งประจำอยู่ที่ควีนส์ทาวน์ นิวซีแลนด์ และเชี่ยวชาญการถ่ายภาพกิจกรรม กีฬา และการเดินทาง ทว่าแรงปรารถนาแท้จริงของเขาคือ การสำรวจชีวิตกลางแจ้งในธรรมชาติกว้างใหญ่ในท้องถิ่นและพื้นที่โดยรอบ

IG: @stefan_haworth

แคทลินส์ ซึ่งตั้งอยู่สุดปลายทางทิศใต้ของนิวซีแลนด์ คือดินแดนที่ป่ามาบรรจบกับมหาสมุทร ที่นี่เป็นชายฝั่งที่มีความเป็นธรรมชาติและน่าทึ่ง การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมถือเป็นปัจจัยสำคัญในการบันทึกภาพดินแดนแห่งนี้ให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด

อุปกรณ์ในกระเป๋า

การถ่ายภาพสัตว์ป่าอันหลากหลายในแคทลินส์นั้นต้องการกล้องที่สามารถบันทึกทุกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการแสดงพฤติกรรมและสีหน้าได้ ผมใช้กล้องฟูลเฟรม Alpha 7CR ขนาดกะทัดรัดความละเอียด 61 ล้านพิกเซล เพื่อให้มั่นใจว่าภาพที่ได้ดูตื่นตาและมีความละเอียดสูง ถึงแม้ขนาดกล้องจะเล็กและกะทัดรัดยิ่งกว่ากล้อง Alpha รุ่นอื่น ๆ แต่คุณภาพที่ได้นั้นไม่ได้เล็กตามเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นกล้องที่อยู่ข้างกายผมตลอดเวลาเพื่อบันทึกภาพทุกช่วงเวลาของชายฝั่งแคทลินส์ ระบบโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและความเร็วการถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 เฟรมต่อวินาทีทำให้กล้องตัวนี้เป็นตัวเลือกที่ดีมาก

เมื่อจับคู่กับเลนส์ FE 70-200mm F2.8 GM OSS II กล้อง Alpha 7CR จึงให้ทั้งระยะและความเร็วที่จำเป็นสำหรับการบันทึกภาพช่วงเวลาของสัตว์ป่าที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วและไม่อาจคาดเดาได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพแมวน้ำที่กำลังเคลื่อนที่ หรือภาพเพนกวินที่กำลังผุดขึ้นจากน้ำ การจับคู่กล้องและเลนส์นี้ช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะไม่พลาดภาพใดโดยเด็ดขาด ระหว่างที่คุณเดินเลาะชายหาด ระวังอย่าเผลอคิดว่าสิงโตทะเลที่นอนหลับอยู่เป็นขอนไม้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องวิ่งหนีกระเจิงแทน ผมเจอมาแล้ว!

เลนส์อีกตัวหนึ่งที่ผมใช้ในระหว่างทริปนี้คือ FE 24-70mm F2.8 GM II นี่เป็นเลนส์อเนกประสงค์อย่างยิ่งและเหมาะกับสถานการณ์การถ่ายภาพที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะบันทึกภาพประภาคารบนฉากหลังพระอาทิตย์ขึ้นอันแสนตื่นตาด้วยเลนส์มุมกว้างที่ 22 มม. หรือโฟกัสกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของโครงสร้างในช่วงแสงทองที่ 70 มม. เลนส์ตัวนี้ก็มอบทั้งความคมชัดและกระจ่างใสให้คุณได้ รูรับแสงขนาด F2.8 ช่วยให้คุณสามารถเล่นกับระยะชัดลึกและสร้างสรรค์ภาพที่มีความโดดเด่นด้วยรายละเอียดอันแจ่มชัดบนพื้นหลังที่พร่าเลือนอย่างสวยงามได้

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 24mm | 1/160 sec | F7.1 | ISO 250

จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดและไฮไลต์สำคัญ

ประภาคาร Nugget Point Lighthouse ถือเป็นไฮไลต์สำคัญสำหรับหลาย คน ที่นี่เป็นประภาคารที่น่าตื่นตา ล้อมรอบด้วยหน้าผาที่มีนกทำรังและแมวน้ำนอนผ่อนคลายอยู่เบื้องล่าง ตัวประภาคารนั้นโดดเด่นอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ ผมเคยดั้นด้นมาถึงประภาคารแห่งนี้หลายต่อหลายครั้ง จังหวะที่พระอาทิตย์ขึ้นเหนือมหาสมุทรถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาโปรดของผมในการบันทึกภาพประภาคารแห่งนี้ เป้าหมายต่อไปของผมคือ การบันทึกภาพประภาคารพร้อมแสงเหนือใต้ท้องฟ้าที่ระยิบระยับด้วยแสงดาว

Alpha 7CR | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 200mm | 1/1250 sec | F2.8 | ISO 125

Alpha 7CR | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 103mm | 1/500 sec | F2.8 | ISO 80

แคทลินส์ถือเป็นถิ่นกำเนิดของเพนกวินตาสีเหลือง (The Yellow Eyed Penguin) ซึ่งเป็นเพนกวินที่หายากที่สุดในโลก ผมต้องเฝ้ารออยู่ในความมืดหลายชั่วโมงให้เจ้าเพนกวินตัวน้อยปรากฏตัวออกมาในช่วงแสงแรก แต่พวกมันก็ปรากฏตัวออกมาที่อีกฟากของพุ่มไม้ กลับกัน แมวน้ำนั้นเป็นสัตว์ที่พบได้ทั่วไป คุณจะพบมันนอนอาบแดดอยู่บนหิน หรือกลิ้งตัวอยู่บนทราย หากคุณโชคดีพอ ในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนถือเป็นช่วงเวลาเหมาะเจาะที่คุณอาจได้เห็นลูกแมวน้ำกำลังเล่นกันในแอ่งหิน บางครั้งที่ระยะไกล คุณอาจได้เห็นนกอัลบาทรอสขนาดตัวใหญ่กว่าปกติด้วยปีกที่กางออกกว้างถึง 2 เมตร กำลังถลาลมอยู่เหนือเกลียวคลื่น สภาพแวดล้อมที่นี่อาจโหดร้ายและสมบุกสมบัน แต่ก็มีสัตว์ป่าให้คุณถ่ายภาพได้ในทุกทิศทาง

สภาพภูมิอากาศและสภาวะการถ่ายภาพ

แคทลินส์นั้นขึ้นชื่อเรื่องมีสี่ฤดูในหนึ่งวัน เวลาหนึ่งอากาศอาจร้อน จากนั้นลูกเห็บก็ตก ตามด้วยฝน หิมะ และกลับมาแดดออกอีกครั้ง คุณไม่เพียงต้องการเสื้อกันฝนสำหรับฝนที่อาจเทลงมาเท่านั้น แต่ยังต้องใช้สำหรับการเข้าใกล้น้ำตกลับที่ซ่อนอยู่ใกล้กับชายฝั่งด้วย การสำรวจน้ำตกและป่าอันน่าหลงใหลของแคทลินส์นั้นจะต้องมีกล้องที่อเนกประสงค์ กล้อง Alpha 7CR ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์การปรับใช้งานและช่วงไดนามิกอันน่าประทับใจถือเป็นกล้องที่เหมาะสมสำหรับสภาวะดังกล่าวอย่างที่สุด ไม่ว่าคุณจะทดลองการถ่ายภาพแบบเปิดชัตเตอร์เป็นเวลานานที่น้ำตกปูรากาอูนุย (Purakaunui Falls) อันเป็นจุดยอดนิยม หรือบันทึกจุดแสงในวนอุทยานแคทลินส์ (Catlins Forest Park) ความยืดหยุ่นของ Alpha 7CR ก็สามารถฉายความโดดเด่นได้ทั้งสิ้น

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 24mm | 1/30 sec | F2.8 | ISO 320

ภายใต้เงาไม้ที่แสงมืดลง รูรับแสง F2.8 กลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ขีดความสามารถด้าน ISO ของกล้องนั้นแม้จะโดดเด่นมาก แต่เมื่ออยู่ในป่าที่มีเมฆทึบปกคลุมก็อาจทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องท้าทายมากได้หากคุณไม่มีขาตั้งกล้อง ผมขอแนะนำให้ใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงขนาด F2.8 ขึ้นไป

Alpha 7CR | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 100mm | 1/5000 sec | F4.5 | ISO 320

ด้วยความห่างไกลและสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย แคทลินส์อาจท้าทาย แต่ก็มีความงดงามเป็นรางวัลให้กับช่างภาพ กล้อง Alpha 7CR ที่จับคู่กับเลนส์ FE 24-70mm F2.8 GM II และ FE 70-200mm F2.8 GM OSS II ถือเป็นชุดอุปกรณ์ที่ผมพบว่าเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางตามแนวชายฝั่งแคทลินส์ เพราะนี่เป็นชุดอุปกรณ์ที่ลงตัวสำหรับการบันทึกภาพความงดงาม ความมหัศจรรย์ และมนต์เสน่ห์ของที่หมายอันไม่ธรรมดาแห่งนี้

ก้าวสู่การผจญภัยตามรอย Alpha Traveller

การเดินทางที่ยิ่งใหญ่นั้นเริ่มต้นจากชุดอุปกรณ์ที่ไว้วางใจได้ซึ่งสามารถตอบสนองทั้งจังหวะความเร็วของการเดินทางและความจำเป็นในการถ่ายภาพของคุณได้ นอกจากอุปกรณ์แล้ว ความสามารถในการปรับตัว ความกล้าผจญภัย และความพร้อมอยู่เสมอที่จะบันทึกความมหัศจรรย์ของโลกก็เป็นสิ่งสำคัญ

อ่านต่อเกี่ยวกับการเดินทางทั่วนิวซีแลนด์ของ Stefan

ลัดเลาะเมาท์คุก (Mt. Cook) อันน่าเกรงขามไปกับ Stefan Haworth | บันทึกภาพตามรอย Alpha Traveller

บินสูงเหนือเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ของนิวซีแลนด์กับ Stefan Haworth | บันทึกภาพตามรอย Alpha Traveller

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7CR

Máy ảnh full-frame nhỏ gọn 61 MP

FE 24-70mm F2.8 GM II

Ống kính Zoom tiêu chuẩn G Master dành cho máy ảnh Full frame

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Ống kính Zoom Telephoto G Master dành cho máy ảnh Full frame

Article Theme

Fly high above the Southern Alps of New Zealand with Stefan Haworth | Capture like an Alpha Traveller

Calvin — Tue, 27 Feb 2024 08:03:51 +0000

บินสูงเหนือเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ของนิวซีแลนด์กับ Stefan Haworth | บันทึกภาพตามรอย Alpha Traveller

Calvin Tue, 02/27/2024 - 13:33

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Lens Category

FE 24-70mm F2.8 GM II

อุปกรณ์ในกระเป๋า

Must-see attractions and highlights

สภาพภูมิอากาศและสภาวะการถ่ายภาพ

ก้าวสู่การผจญภัยตามรอย Alpha Traveller

IG: @stefan_haworth

การถ่ายทอดทิวทัศน์เทือกเขาที่สุดแสนตระการตาให้โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการบินเหนือเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ของนิวซีแลนด์นั้นเป็นการผจญภัยที่จะทำให้คุณแทบลืมหายใจ ถือเป็นฝันสูงสุดของทั้งเหล่าคนรักการถ่ายภาพและมืออาชีพมากมาย

Alpha 7CR | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 180mm | 1/1600 sec | F3.5 | ISO 250

อุปกรณ์ในกระเป๋า

การบันทึกภาพการเดินทางครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ด้วย Sony Alpha 7CR ซึ่งติดตั้งสองเลนส์ G-master อย่างเลนส์ FE 70-200mm F2.8 GM OSS II และ FE 24-70mm F2.8 GM II ถือเป็นการตัดสินใจอย่างเชี่ยวชาญยิ่ง เลนส์ทั้งสองนี้มอบความลงตัวของความหลากหลายที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ถ่ายภาพได้ทั้งภาพโคลสอัพเก็บรายละเอียดของเทือกเขาอันสลับซับซ้อน และภาพมุมกว้างแสนยิ่งใหญ่ของทิวทัศน์อย่างพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเมาท์แอสไปริ่ง (Mount Aspiring)

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 56mm | 1/500 sec | F2.8 | ISO 160

จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดและไฮไลต์สำคัญ

เมาท์แอสไปริ่งนั้นเป็นยอดเขาที่ตั้งสูงตระหง่านกลางทิวทัศน์ รายล้อมไปด้วยธารน้ำแข็งและหน้าผาใหญ่ที่ยื่นชะโงกอยู่เหนือแม่น้ำมาตูคิตูกิ (Matukituki) แสงแรกที่สาดมากระทบยอดเขาเป็นประกายนั้นถือเป็นหนึ่งในภาพโปรดของผมเลยทีเดียว รูรับแสง F2.8 ความเร็วสูงของเลนส์ทั้งสองมีบทบาทสำคัญ เนื่องจากยังความท้าทายจากการสั่นสะเทือนและสภาวะแสงน้อย ในสภาวะแสงน้อยที่เราเผชิญนี้ รูรับแสงที่ช้ากว่าอย่าง F4 นั้นก็จะสร้างความท้าทายให้เราอย่างมาก แม้ความสามารถด้าน ISO ของกล้องจะน่าทึ่งก็ตาม ด้วยความอเนกประสงค์ของเลนส์ F2.8 ผมจึงสามารถปรับตัวตามสภาวะแสงที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและบันทึกภาพความงดงามของทิวทัศน์อันแสนยิ่งใหญ่มาได้โดยสมบูรณ์ และสิ่งสุดท้ายที่คุณจะต้องการคือ การลงสู่พื้นแล้วพบว่าภาพบางภาพนั้นเบลอจากความสั่นไหวของกระแสลม

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 24mm | 1/1250 sec | F3.2 | ISO 800

สภาพภูมิอากาศและสภาวะการถ่ายภาพ

คุณไม่สามารถรับประกันได้ว่าส่วนโครงปีกและล้อจะไม่เข้ามาขวางระหว่างการถ่ายภาพ การซูมได้จึงช่วยเราหลบเหลี่ยงอุปสรรคเพื่อบันทึกภาพได้ในจังหวะที่โอกาสอำนวย ซึ่งช่วยให้เราไม่ต้องครอปภาพในขั้นตอนตกแต่งภาพและสูญเสียพิกเซลอันแสนล้ำค่าไป และอย่าลืมเผื่อใจรับอุปสรรคนี้ไว้และใช้กรอบหน้าต่างมาเป็นส่วนหนึ่งของเฟรมภาพคุณด้วย

การเปิดหน้าต่างไว้ทำให้เราไม่ต้องเผชิญกับเงาสะท้อนของกระจก แต่ที่ความสูงระดับนั้น อุณหภูมิจะอยู่ที่ระดับ -10 องศาเซลเซียสอันแสนยะเยือก ตรวจสอบให้ดีว่าคุณไม่ลืมถุงมือและรัดอุปกรณ์ทุกอย่างให้แน่น คุณคงไม่อยากเสียกล้องหรือเสื้อผ้าชิ้นใดไป อย่าลืมถอดฮูดเลนส์ออกด้วย เพราะหากคุณยื่นเลนส์พ้นกรอบหน้าต่างออกไป ฮูดเลนส์ก็อาจถูกแรงลมกระชากหลุดได้

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 38mm | 1/1250 sec | F4.5 | ISO 160

สิ่งสำคัญสูงสุดเวลาบินคือ การเตรียมพร้อม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการ์ด SD ของคุณว่างและเลนส์สะอาดดี เพราะคุณไม่สามารถย้อนกลับมาถ่ายซ่อมภาพได้ง่าย ๆ เมื่ออยู่บนเครื่องบิน การมีกล้องที่ตอบสนองดีถือเป็นปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน Sony Alpha 7CR พิสูจน์แล้วว่าเป็นคู่หูที่เหมาะเจาะสำหรับสถานการณ์นี้ ด้วยความสามารถการถ่ายต่อเนื่องที่สูงถึง 8 เฟรมต่อวินาที อันตราการถ่ายที่สูงนี้ช่วยให้เราสามารถถ่ายภาพลำดับต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็ว รับประกันว่าจะไม่มีช่วงเวลาใดที่พลาดไปในระหว่างทิวทัศน์อันตระการตาและสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของการถ่ายภาพกลางอากาศ ยิ่งไปกว่านั้น ระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ล้ำหน้าของ Alpha 7CR ยังช่วยให้คุณมั่นใจถึงภาพที่คมชัดและโฟกัสอย่างแม่นยำแม้ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ช่างภาพสามารถบันทึกทุกรายละเอียดได้อย่างมั่นใจและแจ่มชัด

ก้าวสู่การผจญภัยตามรอย Alpha Traveller

ผมขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณลองสำรวจเทือกเขาแอลป์ตอนใต้จากบนฟ้า หากว่าคุณชื่นชอบการถ่ายภาพจริง ๆ ออกไปบันทึกภาพพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกล้อง Sony Alpha 7CR ของคุณเมื่อแสงแรกเริ่มฉาบทาสีทองแสนอบอุ่นลงบนยอดเขาสลับหุบผา และหากโชคดี คุณยังอาจจะได้ลงจอดเครื่องบนบนธารน้ำแข็งอีกด้วย

อ่านต่อเกี่ยวกับการเดินทางทั่วนิวซีแลนด์ของ Stefan

ลัดเลาะเมาท์คุก (Mt. Cook) อันน่าเกรงขามไปกับ Stefan Haworth | บันทึกภาพตามรอย Alpha Traveller

ผจญภัยในธรรมชาติสุดสมบุกสมบันของชายฝั่งแคทลินส์กับ Stefan Haworth | บันทึกภาพตามรอย Alpha Traveller

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7CR

Máy ảnh full-frame nhỏ gọn 61 MP

FE 24-70mm F2.8 GM II

Ống kính Zoom tiêu chuẩn G Master dành cho máy ảnh Full frame

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Ống kính Zoom Telephoto G Master dành cho máy ảnh Full frame

Article Theme

Navigating the Majestic Mt. Cook with Stefan Haworth | Capture like an Alpha Traveller

Calvin — Tue, 27 Feb 2024 05:54:41 +0000

ลัดเลาะเมาท์คุก (Mt. Cook) อันน่าเกรงขามไปกับ Stefan Haworth | บันทึกภาพตามรอย Alpha Traveller

Calvin Tue, 02/27/2024 - 11:24

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Lens Category

FE 24-70mm F2.8 GM II

อุปกรณ์ในกระเป๋า

จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดและไฮไลต์สำคัญ

สภาพภูมิอากาศและสภาวะการถ่ายภาพ

ก้าวสู่การผจญภัยตามรอย Alpha Traveller

IG: @stefan_haworth

อุทยานแห่งชาติเมาท์คุกอันเป็นที่ตั้งของภูเขาตระหง่านและธารน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ รวมถึง อาโอรากิ (ชื่อของเมาท์คุกในภาษาเมารี) เองด้วยนั้นเป็นดั่งสรวงสวรรค์สำหรับช่างภาพที่จะบันทึกภาพทิวทัศน์อันน่าตื่นตา

อุปกรณ์ในกระเป๋า

ผมใช้กล้อง Sony A7CR คู่กับเลนส์ FE 70-200mm F2.8 GM II และ FE 24-70mm F2.8 GM II ซึ่งเป็นคู่หูที่ขาดไม่ได้ในการบันทึกหัวใจสำคัญของภาพทิวทัศน์ที่น่าตื่นตา ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบปูคากิ (Lake Pukaki) สีฟ้าแสนสงบ หรือจะเป็นความงดงามของเส้นทางหุบเขาฮุคเกอร์วัลเลย์ (Hooker Valley) อันสมบุกสมบัน ตลอดจนภาพทิวทัศน์อันน่าตื่นตะลึงของทะเลสาบแทสมัน (Tasman Lake) ชุดอุปกรณ์ Sony ชุดนี้ก็แสดงถึงพลังในถ่ายทอดออกมาได้เสมอ

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 28 มม. | 1/640 วินาที | F5.6 | ISO 100

จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดและไฮไลต์สำคัญ

ระหว่างขับรถมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติเมาท์คุก นักเดินทางจะถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหลของอาโอรากิ หรือเมาท์คุก ยอดเขาที่สูงที่สุดของนิวซีแลนด์ซึ่งสูงถึง 3,724 เมตร พื้นที่ที่โอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันตระการตาแห่งนี้ได้รับการประกาศชื่อให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วยความมีชื่อเสียงโด่งดังของธารน้ำแข็ง ทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ และเทือกเขาอันสลับซับซ้อน อุทยานแห่งนี้จึงเป็นที่ดึงดูดบรรดานักผจญภัยให้มาแสวงหาความงดงามอันแสนบริสุทธิ์ของทิวเขาอันเป็นธรรมชาติ

Alpha 7CR | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 200 มม. | 1/200 วินาที | F2.8 | ISO 320

ถนนอันคดเคี้ยวริมทะเลสาบปูคากิ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสีฟ้าสดใสจนดูเหนือจริง ผิวน้ำที่ใสสะอาดราวกับกระจก จนสามารถเห็นภาพเงาสะท้อนของเมาท์คุกได้อย่างน่าตื่นตะลึงจับใจนักเดินทาง ในการหยุดถ่ายภาพทิวทัศน์มุมกว้างที่งดงามแทบลืมหายใจนี้ Sony A7CR ที่จับคู่กับเลนส์ FE 70-200mm F2.8 GM II

สามารถจับทุกรายละเอียดมาไว้ในเฟรมภาพเพื่อเผยความงามอันล้ำลึกของดินแดนแห่งนี้ออกมาได้ เทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวอันล้ำหน้าของชุดอุปกรณ์ช่วยประกันอยู่เบื้องหลังว่าภาพทุกชอทจะคมชัด รักษาแก่นความงามอันแสนโดดเด่นของทิวทัศน์ไว้ได้แม้ในการการเดินทางที่ไม่ได้หยุดนิ่ง

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 25 มม. | 1/800 วินาที | F5.6 | ISO 125

หนึ่งในประตูทางเข้าสู่หุบเขาที่เปี่ยมความเป็นธรรมชาติโดยแท้ที่เขาถึงได้ง่ายที่สุดคือเส้นทางหุบเขา Hooker Valley ซึ่งจะมอบการผจญภัยอันแสนตื่นเต้นให้ในเวลาอันใกล้ เส้นทางแสนงดงามเส้นนี้ทอดผ่านสะพานแขวนและทางเดินแผ่นไม้ที่คดเคี้ยวเคียงคู่ไปกับกระแสธารน้ำแข็ง เผยให้เห็นความงามแบบดิบ ๆ ของแพตะกอนธารน้ำแข็ง ตลอดเส้นทางนี้ เลนส์ FE 24-70mm F2.8 GM II ถือเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการบันทึกแก่นความงามของภูมิทัศน์อันไร้การเหนี่ยวรั้งนี้

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 24 มม. | 1/100 วินาที | F5.6 | ISO 400

FE 24-70mm F2.8 GM II ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความอเนกประสงค์นั้นสามารถปรับตัวรับมือกับทิวทัศน์ที่หลากหลายได้อย่างง่ายดาย ทำให้เรามีช่วงทางยาวโฟกัสอันหลากหลายที่ครอบคลุมทั้งการถ่ายในมุมแคบและกว้าง จากความงามตระการตาของเทือกเขาแอลป์แห่งแดนใต้ไปจนถึงรายละเอียดอันสลับซับซ้อนของแพตะกอนธารน้ำแข็ง เลนส์ตัวนี้ก็สามารถครอบคลุมได้ทั้งทิวทัศน์อันกว้างใหญ่และรายละเอียดอันสลับซับซ้อน ช่วยประกันว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ถ่ายภาพอันดื่มด่ำท่ามกลางความงามอันไร้การแต่งแต้มของทิวทัศน์อันไร้การควบคุมของนิวซีแลนด์

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 42 มม. | 1/2000 วินาที | F2.8 | ISO 100

สภาพภูมิอากาศและสภาวะการถ่ายภาพ

แม้หิมะที่ตกลงมาจะเป็นอุปสรรคขัดขวางเส้นทางที่รู้จักกันดีอย่างมุลเลอร์ ฮัท แต่ทว่าเส้นทางรองที่เป็นที่รู้จักน้อยกว่าอย่างเรด ทาร์นส์ ก็เผยให้เราเห็นความงามอันน่าตื่นตาของทิวทัศน์เหนือหมู่บ้านเมาท์คุกท่ามกลางหุบเขาฮุกเกอร์วัลเลย์ รวมถึงทะเลสาบแทสมันท่ามกลางภูเขาน้ำแข็ง ความคมชัดที่ได้จากเซ็นเซอร์ 61 ล้านพิกเซลของ A7CR ซึ่งเสริมด้วยเลนส์ FE 24-70mm F2.8 GM II ได้เผยให้เราเห็นรายละเอียดที่ไร้คู่เปรียบของแขนงแม่น้ำเก่าแก่ที่ปกคลุมไปด้วยกอหญ้าบนพื้นหุบเขา อุปกรณ์ชุดนี้ช่วยมอบทั้งความงามต่อสายตาและเก็บทุกรายละเอียดจากภาพสะท้อนอันกระจ่างใสจากหุบเขาโดยรอบ

Alpha 7CR | FE 24-70mm F2.8 GM II | 47 มม. | 1/800 วินาที | F6.3 | ISO 100

ก้าวสู่การผจญภัยตามรอย Alpha Traveller

สำหรับนักผจญภัยที่แสวงหาโอกาสที่จะบันทึกความงามอันบริสุทธิ์ของอุทยานแห่งชาติเมาท์คุกนั้น อุปกรณ์ของ Sony ก็พร้อมมอบทั้งความแม่นยำและความไว้วางใจได้ที่จะเปลี่ยนทุกเฟรมให้เป็นหลักฐานอันเหนือกาลของธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์

อ่านต่อเกี่ยวกับการเดินทางทั่วนิวซีแลนด์ของ Stefan

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7CR

Máy ảnh full-frame nhỏ gọn 61 MP

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Ống kính Zoom Telephoto G Master dành cho máy ảnh Full frame

FE 24-70mm F2.8 GM II

Ống kính Zoom tiêu chuẩn G Master dành cho máy ảnh Full frame

Article Theme

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 20-70mm F4 G

Japan in winter through the lens of @bongtographer_ | Featuring FE 20-70mm F4 G

Calvin — Tue, 27 Feb 2024 05:17:18 +0000

ญี่ปุ่นยามเหมันต์ผ่านเลนส์ของ @bongtographer_ | ด้วย FE 20-70mm F4 G

Calvin Tue, 02/27/2024 - 10:47

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7 IV

Lens Category

FE 20-70mm F4 G

เหตุผลที่ทำให้ Ha-sung เลือก FE 20-70mm F4 G

ถาม-ตอบการเดินทางกับ Ha-sung

Bong Ha-sung ช่างภาพชาวเกาหลีใต้ที่ขนานนามตัวเองเป็นนักท่องเที่ยวสายชิลออกสำรวจโลกเพื่อบันทึกภาพทิวทัศน์แสนอัศจรรย์เพื่อแบ่งปันในโปรไฟล์ Instagram @bongtographer_

Ha-sung ออกบันทึกภาพแดนมหัศจรรย์ฤดูหนาวอย่างเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นในช่วงคริสต์มาส ด้วยเลนส์ FE 20-70mm F4 G และกล้อง Alpha 7 IV

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 50มม. | 1/320 วินาที | F13 | ISO 100

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 20-70mm F4 G

ความความกะทัดรัดและน้ำหนักที่เบา พร้อม AF ที่รวดเร็ว ทำให้ FE 20-70mm F4 G เป็นมาตรฐานการซูมใหม่ที่มีระยะความยาวโฟกัสที่กว้างยิ่งขึ้นและกลายเป็นเลนส์ตัวเลือกเพื่อความอเนกประสงค์สำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องเดินทางอยู่เสมอ

ความยาวโฟกัส: 20-70 มม.
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.30 ม. (W), 0.25 ม. (T)
อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุด (X): 0.39
น้ำหนัก: 488 ก.

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 70 มม. | 1/800 วินาที | F8 | ISO 100

เลนส์ตัวนี้ครอบคลุมช่วงการถ่ายภาพได้กว้าง ตั้งแต่ภาพมุมกว้างจนถึงเทเลโฟโต้ ทำให้ผมบันทึกภาพทุก ๆ อย่างที่พบเจอระหว่างการเดินทางได้”

เหตุผลที่ทำให้ Ha-sung เลือก FE 20-70mm F4 G

ระหว่างที่ Ha-sung เดินทางในช่วงฤดูหนาวซึ่งกิจกรรมกายภาพมีค่อนข้างจำกัด เขาจึงต้องการเลนส์อเนกประสงค์ที่ครอบคลุมทางยาวโฟกัสได้หลากหลายช่วง “ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์อันกว้างสุดลูกหูลูกตา หรือวัตถุในระยะไกล เลนส์ FE 20-70mm F4 G สามารถพิสูจน์ความอเนกประสงค์ที่ช่วยให้ผมบันทึกทุก ๆ อย่างมาได้เป็นอย่างดี”

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 20 มม. | 1/250 วินาที | F8 | ISO 160

ถาม-ตอบการเดินทางกับ Ha-sung

เล่าเรื่องภาพที่คุณถ่ายมาให้เราฟังหน่อย

ผมอยากบันทึกภาพทิวทัศน์ของหิมะสุดลูกหูลูกตา ระหว่างอยู่ในหมู่บ้าน ผมตั้งเป้าที่จะบันทึกวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองหิมะและช่วงเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันของพวกเขา

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 43 มม. | 1/320 วินาที | F4 | ISO 100

ประสบการณ์ที่คุณได้รับจากชุดอุปกรณ์กล้องเป็นอย่างไร

ผมอยู่ในหมู่บ้านชื่อ "บิเอะ” ตอนนั้นหิมะตกหนักมาก แม้สภาพแวดล้อมจะท้าทาย แต่ผมก็ตัดสินใจเลือกความยาวโฟกัสและบันทึกภาพมาได้ ถึงแม้เป้าหมายจะอยู่ไกลและเข้าถึงยาก แต่ผมก็ใช้โหมดครอปบันทึกภาพมาได้ ซึ่งช่วยให้ผมครอบคลุมระยะการถ่ายได้สูงสุดถึง 70 มม. อันเป็นเรื่องที่ดีมาก เนื่องจากบ้านในหมู่บ้านออกแบบมาให้อยู่สูงกว่าระดับสายตา การถ่ายภาพด้วยเลนส์มุมกว้างเพื่อพยายามจะบันทึกทิวทัศน์ให้ได้ทั้งหมดจะทำให้ภาพบิดเพี้ยน ทว่าที่ความยาวโฟกัส 20 มม. นั้นผมก็สามารถหลีกเลี่ยงความบิดเพี้ยนได้แล้ว

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 28 มม. | 1/250 วินาที | F9 | ISO 100

เพื่อนช่างภาพคนอื่น ๆ ควรระมัดระวังอะไรบ้างในฤดูหนาว

ผมแนะนำให้ใช้การตั้งค่าที่สว่างกว่าปกติเล็กน้อย หิมะนั้นมักจะปรากฏในภาพมีลักษณะมืดกว่าที่คาดคิด ดังนั้นเราจึงมักใช้การถ่ายภาพให้สว่างกว่าปกติเพื่อบันทึกความสว่างที่เรามองเห็นจากหิมะ นอกจากนี้ เนื่องจากเราถ่ายภาพการเดินทาง ผมแนะนำให้ลองถ่ายภาพจากหลาย ๆ มุม ด้วยจอ LCD แบบหมุน คุณสามารถถ่ายภาพจากระดับสายตาไปจนถึงมุมสูงหรือต่ำได้ ซึ่งช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าภาพที่ได้จะมีความหลากหลาย

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 50มม. | 1/1250 วินาที | F4 | ISO 100

ในระหว่างการเดินทาง แม้แต่ช่วงเวลาที่หนาวเหน็บถึงที่สุด ก็อาจกลายเป็นความทรงจำที่อบอุ่นที่สุดได้เช่นกัน”

ที่มาของแรงบันดาลใจ

หากคุณเองก็กำลังมุ่งหน้าไปญี่ปุ่น ลองแวะไปเที่ยวชมฮอกไกโดดู ทิวทัศน์ของที่นี่ โดยเฉพาะในฤดูหนาวอันแสนตื่นตานั้นขึ้นชื่อเป็นอย่างยิ่งเรื่องความงดงามที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

ดูบทความมองผ่านเลนส์ของช่างภาพคนอื่น

ตื่นตามหานครนิวยอร์กผ่านเลนส์ของ @jinifoto | ด้วย FE 20-70mm F4 G

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7 IV

Máy ảnh lai toàn khung hình

FE 20-70mm F4 G

Ống kính Zoom tiêu chuẩn dòng G dành cho máy ảnh Full frame

Article Theme

การถ่ายภาพสตรีท

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 20-70mm F4 G

Admire New York through the lens of @jinifoto | Featuring FE 20-70mm F4 G

Calvin — Mon, 26 Feb 2024 08:58:29 +0000

ตื่นตามหานครนิวยอร์กผ่านเลนส์ของ @jinifoto | ด้วย FE 20-70mm F4 G

Calvin Mon, 02/26/2024 - 14:28

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7 IV

Lens Category

FE 20-70mm F4 G

เหตุผลที่ทำให้ Sung-Jin เลือก FE 20-70mm F4 G

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Sung-Jin

ช่างภาพชาวเกาหลีใต้ Park Sung-Jin เจ้าของบัญชี @jinifoto ใน Instagram ท่องเที่ยวไปทั่วโลกเพื่อเก็บภาพความมหัศจรรย์ที่พบในแต่ละประเทศ

Sung-Jin สำรวจสถาปัตยกรรมและทิวทัศน์เมืองของนิวยอร์กด้วยเลนส์ FE 20-70mm F4 G และกล้อง Alpha 7 IV คู่ใจแสนอเนกประสงค์ เขาจะพาเราไปท่องเที่ยวตะลุยชมสีสันฤดูใบไม้ร่วงของนิวยอร์ก จากทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันเปล่งประกายไปจนถึงสถาปัตยกรรมอันกว้างใหญ่และตึกเสียดฟ้าอันตระการตา

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 70 mm | 1/320 sec | F10 | ISO 100

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 20-70mm F4 G

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 34 mm | 1/125 sec | F8 | ISO 100

ผมเลือกใช้เลนส์นี้เพราะน้ำหนักที่เบาและความกะทัดรัด ซึ่งทำให้เดินทางได้สะดวก”

เหตุผลที่ทำให้ Sung-Jin เลือก FE 20-70mm F4 G

Sung-Jin ต้องการบันทึกความงามและสีสันของนิวยอร์กในฤดูใบไม้ผลิและต้องการเลนส์อเนกประสงค์ที่สามารถบันทึกได้ทุกอย่างตั้งแต่ภาพสตรีทจนถึงทิวทัศน์ ด้วยแผนที่จะต้องออกเดินค่อนข้างมาก เลนส์ที่เบาและกะทัดรัดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นเหตุผลให้เขาเลือกใช้ FE 20-70mm F4 G

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 20 mm | 1/50 sec | F4.5 | ISO 1600

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Sung-Jin

อุปกรณ์ของคุณมีส่วนช่วยในการบันทึกช่วงเวลาที่สวยงามอย่างไรบ้าง

เลนส์มุมกว้างนั้นเหมาะสำหรับการบันทึกช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว คุณมีโอกาสบันทึกและชื่นชมทิวทัศน์ไว้ในเฟรมได้มากยิ่งขึ้น ที่มุมกว้างสุด เลนส์ FE 20-70mm F4 G นั้นเหมาะสำหรับการบันทึกภาพตึกสูงเป็นอย่างยิ่ง

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 70 mm | 1/2000 sec | F9 | ISO 200

คุณจะแนะนำเพื่อนช่างภาพให้ไปที่ใดในนิวยอร์ก

หากคุณมานิวยอร์กเป็นครั้งแรก ผมแนะนำให้เดินชมแมนฮัตตันในมุมสูง คุณสามารถเริ่มต้นที่ย่านแมนฮัตตันตอนล่าง แล้วเดินไปจนถึงย่านกรีนนิช วิลเลจได้ นอกจากนี้ยังสามารถเดินจากจัตุรัสไทม์สแควร์ไปยังสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์กได้อีกด้วย ผมแนะนำให้เลือกเวลาช่วงเช้าตรู่ที่ยังมีคนน้อยอยู่

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 20 mm | 1/200 sec | F8 | ISO 100

ช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดของคุณในนิวยอร์กคือช่วงเวลาใด

ในวันสุดท้ายของทริปที่สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ก สีสันของใบเมเปิลในฤดูใบไม้ร่วงนั้นสวยงามมาก ยามอาทิตย์อัสดงยิ่งทำให้มันสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 34 mm | 1/25 sec | F4 | ISO 1000

ภาพถ่ายคือการบันทึก ภาพแต่ละภาพจะพาผมย้อนเวลากลับไป ทำให้ผมสัมผัสความสุขของช่วงเวลานั้นได้อีกครั้ง”

ที่มาของแรงบันดาลใจ

สำหรับช่างภาพคนอื่น ๆ ที่วางแผนจะมาที่นิวยอร์ก Sung-Jin แนะนำให้ลองไปเยี่ยมชมหอชมวิวที่มีอยู่หลายแห่งเพื่อชมทิวทัศน์อันแสนงดงามและบันทึกภาพเก็บไว้

ดูบทความมองผ่านเลนส์ของช่างภาพคนอื่น
ญี่ปุ่นยามเหมันต์ผ่านเลนส์ของ @bongtographer_ | ด้วย FE 20-70mm F4 G

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7 IV

Máy ảnh lai toàn khung hình

FE 20-70mm F4 G

Ống kính Zoom tiêu chuẩn dòng G dành cho máy ảnh Full frame

Article Theme

สถาปัตยกรรม

ทิวทัศน์เมือง/ทิวทัศน์ยามค่ำคืน

การถ่ายภาพสตรีท